ปัจจุบันการทำธุรกิจ ไม่ได้อยู่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น

ทั้งโอกาศและเงินทุนกระจายอยู่ทั่วโลก  ซึ่งกองทุนและนักลงทุนต่างๆ ในหลายประเทศทั่วโลกก็กำลังมองหาธุรกิจที่ดีอยู่เช่นเดียวกัน และหลายธุรกิจในประเทศไทยก็เป็นที่น่าสนใจ

      แต่เนื่องด้วยนักธุรกิจไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ออกไปทำธุรกิจนอกประเทศมากนัก  ไม่เหมือนกับนักธุรกิจประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย หรือ จีน ที่ทำธุรกิจแบบเชิงรุก โดยขยายและเปิดกว้างเข้าไปในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้โอกาศต่างๆ ทั้งการเงิน การลงทุน กว่าจะมาถึงนักธุรกิจไทยก็เป็นไปได้ยากและอาจเหลือน้อยมาก

       การที่นักธุรกิจไทย ไม่กล้าออกไปหาโอกาศในเวทีโลก อาจมาจากหลายเหตุผลด้วยกัน  ซึ่งเหตุผลหลักที่สำคัญ คือ ไม่มีสะพานเชื่อมต่อทางธุรกิจที่ดี หรือที่เรียกว่า “ Global Business Connection “ 

      หากเรามีสายสัมพันธ์หรือ Good Connection กับนักธุรกิจในประเทศต่างๆ แล้วนั้น ก็จะเป็นเครื่องมือและสะพานเชื่อมต่อที่แข็งแรงให้กับนักธุรกิจไทยในการเข้าถึงโอกาศและแหล่งเงินทุนได้ไม่ยาก

       การที่ผมเองได้มีโอกาศทำงานในแวดวงการเงินและได้ร่วมงานกับบริษัทต่างๆ ในหลายประเทศนั้น ทำให้ผมได้เห็นว่า ถ้าหากบริษัทหรือธุรกิจในประเทศไทย สามารถเชื่อมต่อและสร้าง Connection ให้เกิดกับกลุ่มนักลงทุนต่างๆ ได้ เราน่าจะดึงความสนใจในการลงทุนได้ไม่ยาก

       เพราะนักธุรกิจไทยมีความได้เปรียมากกว่านักธุรกิจจากประเทศอื่นๆ ด้วยซ้ำ เช่น การทำธุรกิจของคนไทยส่วนใหญ่อยู่บนพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแรงและผู้ก่อตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ในเรื่องนั้น ซึ่งธุรกิจในลักษณะดังกล่าวหาไม่ง่ายเลย 

       เนื่องด้วยนักธุรกิจประเทศอื่นมักจะทำธุรกิจบนกระแสหลัก ที่ผู้ก่อตั้งเองอาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้วยซ้ำ แค่เพียงเพราะเขาได้เจอคนมากกว่า มี Connection มากกว่า เจอนักลงทุนมากกว่า เลยทำให้เขาสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่างๆ ได้ไม่ยาก ทั้งๆ ที่สุดท้ายแล้วผู้ก่อตั้งไม่ได้มีความสนใจจริงๆ กับธุรกิจนั้นในระยะยาวด้วยซ้ำ 

       ดังนั้น หากนักธุรกิจไทยของเรา มีโอกาศได้พบปะแลกเปลี่ยน กับนักลงทุนหรือกองทุนต่างๆ ในเวทีโลก เพื่อให้เกิด Good Connection ได้แล้วนั้น ผมเชื่อเหลือเกินว่า จุดแข็งต่างๆ ที่เรามี จะทำให้เราโดดเด่นกว่านักธุรกิจประเทศอื่นด้วยซ้ำ